ความสําคัญของการเปรียบเทียบคู่แข่ง (Competitive Benchmarking) ต่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ (Comparative Advantage)ในสภาวะการแข่งขันแบบไดนามิกของธุรกิจเป็นสิ่งที่ธุรกิจทุกขนาดทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ SMEs ต้องให้ความสนใจเป็นลำดับแรกๆ ศิลปะการเปรียบเทียบคู่แข่ง จะทําหน้าที่เป็นเข็มทิศ ชี้นําธุรกิจของคุณไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ดีขึ้น การพัฒนานวัตกรรม และการเติบโตอย่างยั่งยืน
เราพบว่าหลายธุรกิจได้มีการดำเนินการวิเคราะห์และเปรียบเทียบคู่แข่ง และโดยทั่วไปจะเลือกใช้รูปแบบของเมทริกซ์เพื่อแสดงผลในการเปรียบเทียบมิติการดำเนินงานและผลลัพธ์ทางธุรกิจในแต่ละช่วงเวลา อาทิ ยอดขาย อัตรากำไร ส่วนแบ่งทางการตลาด สินค้าและบริการใหม่ๆ ราคาและโปรโมชั่นใหม่ๆ การขยายโรงงาน และกิจกรรมทางธุรกิจอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทำการวิเคราะห์ ซึ่งอาจเป็นรายเดือน รายไตรมาส รายครึ่งปี หรือรายปี ขึ้นอยู่กับสภาวะความรุนแรงของการแข่งขันและความพร้อมของทีมงาน
คำถามที่สำคัญคือ สิ่งเหล่านั้นบอกอะไรกับคุณ และมีอะไรที่คุณนำไปพัฒนาต่อยอดได้?
บทความนี้เราจะเร่ิมต้นด้วยการกำหนดขอบเขตของการเปรียบเทียบคู่แข่ง โดยเน้นการสํารวจความสําคัญของการวิเคราะห์เปรียบเทียบคู่แข่งที่มีรายละเอียดจุดเน้นที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ เกณฑ์สําหรับการเลือกคู่แข่งที่มุ่งเน้นเพื่อเปรียบเทียบ ตัวชี้วัดหลักในการเปรียบเทียบ ข้อจำกัดของแนวทางการวิเคราะห์คู่แข่งแบบดั้งเดิม และกลยุทธ์ทางเลือกสําหรับการวิเคราะห์ที่จะช่วยให้กลยุทธ์โดยรวมมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของคุณให้เต็มศักยภาพ
ทําไมการเปรียบเทียบคู่แข่งจึงจําเป็นอย่างมาก?
การเปรียบเทียบคู่แข่งช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลเชิงลึก (Insights) ที่มากกว่าคู่แข่งอื่นๆ ในตลาด ช่วยให้สามารถประเมินประสิทธิภาพ ระบุแนวโน้มของอุตสาหกรรม และค้นพบโอกาสที่เป็นไปได้ ด้วยการกลั่นกรองกลยุทธ์ของคู่แข่ง การนําเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่าง และการวางตําแหน่งทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม ธุรกิจต่างๆ จะได้รับความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับสภาวะการแข่งขัน ความรู้นี้ทําหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสําหรับการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล ส่งเสริมความสามารถในการปรับตัวและความคล่องตัวในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา